ความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์และการดูดวงเป็นศาสตร์พยากรณ์ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การทำนายทายทัก แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจ เป็นที่พึ่งทางใจ และสะท้อนถึงโลกทัศน์ของผู้คนที่มีความผูกพันกับพลังธรรมชาติและสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ความเชื่อนี้ได้ผสมผสานเข้ากับหลักศาสนาพุทธ วัฒนธรรมพราหมณ์ และความเชื่อท้องถิ่น จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตตั้งแต่ระดับสามัญชนไปจนถึงราชสำนัก
โหราศาสตร์ (Astrology) คือศาสตร์ที่ว่าด้วยการพยากรณ์อนาคตหรือโชคชะตาของมนุษย์ โดยอาศัยการศึกษาตำแหน่งและการเคลื่อนที่ของดวงดาวบนท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบสุริยะ มาเชื่อมโยงกับชีวิตและเหตุการณ์บนโลก หลักการพื้นฐานของโหราศาสตร์เชื่อว่า ตำแหน่งของดวงดาวในขณะที่เราเกิด (เวลาตกฟาก) สามารถบ่งบอกถึงลักษณะนิสัย บุคลิกภาพ พรสวรรค์ และแนวโน้มของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตได้
หลักการสำคัญในโหราศาสตร์ไทย ซึ่งมีรากฐานมาจากอินเดีย จะใช้ดาวเคราะห์ 10 ดวง ได้แก่ อาทิตย์ (๑), จันทร์ (๒), อังคาร (๓), พุธ (๔), พฤหัสบดี (๕), ศุกร์ (๖), เสาร์ (๗), ราหู (๘), เกตุ (๙), และมฤตยู (๐) มาพิจารณาความสัมพันธ์ผ่านองค์ประกอบต่างๆ เช่น:
ราศี: การแบ่งท้องฟ้าออกเป็น 12 ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนมีกลุ่มดาวฤกษ์ประจำอยู่ เรียกว่า "จักรราศี" (Zodiac)
ภพ (เรือนชะตา): การแบ่งดวงชะตาออกเป็น 12 เรือน ซึ่งแต่ละเรือนจะมีความหมายแตกต่างกันไป เช่น การเงิน (กดุมภะ), ครอบครัว (พันธุ), การงาน (กัมมะ), หรือคู่ครอง (ปัตนิ)
ธาตุ: การแบ่งราศีออกเป็น 4 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งส่งผลต่อพื้นฐานอุปนิสัย
การ "ผูกดวง" คือการสร้างแผนภูมิดวงดาว ณ เวลาเกิดของบุคคลนั้นๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์และทำนายทายทักโดยโหรหรือนักพยากรณ์
โหราศาสตร์เข้ามาในดินแดนไทยพร้อมกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจากอินเดีย และมีบทบาทสำคัญในราชสำนักมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยและอยุธยา โดยมี "โหรหลวง" ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่พระมหากษัตริย์ในการกำหนดฤกษ์ยามสำคัญต่างๆ เช่น การออกศึกสงคราม พระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือการสร้างเมือง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อว่าความสำเร็จของบ้านเมืองนั้นสัมพันธ์กับการโคจรของดวงดาว
ในปัจจุบัน ความเชื่อนี้ได้หยั่งรากลึกในวิถีชีวิตคนไทยทุกระดับ และมักถูกนำมาใช้เพื่อ:
เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ: ในยามที่ชีวิตเผชิญความไม่แน่นอน การดูดวงเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยสร้างความหวังและกำลังใจ
ประกอบการตัดสินใจ: คนไทยจำนวนไม่น้อยใช้การดูดวงเพื่อหาฤกษ์งามยามดีในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์ออกรถ ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจทางธุรกิจ
การทำความเข้าใจตนเองและผู้อื่น: หลายคนเชื่อว่าโหราศาสตร์ช่วยให้เข้าใจจุดแข็ง-จุดอ่อนของตนเอง และเข้าใจธรรมชาติของผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งเชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่อง "กฎแห่งกรรม" ว่าดวงดาวเป็นภาพสะท้อนของกรรมที่ทำมาแต่อดีต
นอกเหนือจากโหราศาสตร์ไทยแบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีศาสตร์การพยากรณ์อีกหลากหลายแขนงที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ได้แก่:
ไพ่ยิปซี (ไพ่ทาโรต์) และไพ่ออราเคิล: เป็นศาสตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เนื่องจากเข้าถึงง่ายและให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจงกับคำถามได้ดี ผู้ทำนายจะตีความหมายจากสัญลักษณ์บนหน้าไพ่ที่ผู้ดูดวงเลือก
เลขศาสตร์ (Numerology): เป็นการทำนายโดยใช้ตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับชีวิต เช่น วันเดือนปีเกิด เลขที่บ้าน หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ มาคำนวณและตีความหมายเพื่อเสริมดวงในด้านต่างๆ
การดูลายมือ (Palmistry): เป็นศาสตร์โบราณที่เชื่อว่าเส้นต่างๆ บนฝ่ามือ เนิน และลักษณะของมือ สามารถบ่งบอกถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเจ้าของลายมือได้
การทำนายจากลางสังหรณ์และนิมิต: เป็นความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว เช่น ตากระตุก สัตว์เลื้อยคลานเข้าบ้าน หรือความฝัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้า
แม้ว่าในยุคดิจิทัลที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าไปมาก แต่โหราศาสตร์และการดูดวงยังคงเป็นมรดกทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมที่ปรับตัวและดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องในสังคมไทย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่พึ่งทางใจและความปรารถนาที่จะเข้าใจในชะตาชีวิตของมนุษย์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
อาจารย์ ดร.วรพล ภูธนกฤตกัมพล
บริษัท นัมเบอร์ 9 คอร์ปอเรชั่น จำกัด
รับตั้งชื่อมงคล,รับตั้งชื่อลูก,บริการตั้งชื่อมงคล,ตั้งชื่อเปลี่ยนนามสกุล,อาจารย์ตั้งชื่อ,จ้างตั้งชื่อ,ตั้งชื่อบริษัทมงคล,รับตั้งชื่อแบรนด์/ร้านค้า